เอเยนซี – กองทุนสัตว์ป่าโลกเผยรัฐบาลประเทศต่างๆ จำเป็นต้องตัดสินใจครั้งสำคัญ เรื่องปัญหา การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภายใน 5 ปี เพื่อรับมือกับความต้องการ พลังงาน ที่คาดว่าจะเพิ่มเป็น 2 เท่าในอีก 50 ปีข้างหน้า
องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) ระบุไว้ในรายงานว่าการถ่วงเวลาออกไปอาจจะทำให้โลกต้องเผชิญกับ ภาวะโลกร้อน ขั้นอันตรายภายในเวลาชั่วชีวิตหนึ่ง หรืออาจทำให้ต้องใช้มาตรการที่เข้มงวดยิ่งขึ้นและเสียค่าใช้จ่ายแพงขึ้น ซึ่งอาจสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงแก่เศรษฐกิจโลกได้
“ปัญหาสำหรับผู้นำและรัฐบาลต่างๆทั่วโลกก็คือ จะควบคุมการปล่อย ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ไม่ให้อยู่ในระดับสูงจนเป็นอันตราย โดยไม่กระทบการพัฒนาประเทศและลดระดับมาตรฐานการครองชีพได้อย่างไร” เจมส์ ลีป (James Leape) ผู้อำนวยการ WWF กล่าว
“เรามีเวลาอีกน้อยนิดที่เราจะสามารถเพาะเมล็ดแห่งการเปลี่ยนแปลงได้ และนั่นก็คืออีก 5 ปีข้างหน้า เราไม่สามารถปล่อยเวลาให้สูญเปล่าได้อีก” เขาเสริม
รายงานฉบับนี้ ตั้งเป้าสำหรับ อุณหภูมิ เฉลี่ยทั่วโลกภายในปี 2050 ว่าไม่ควรเพิ่มเกิน 2 องศาเซลเซียสจากระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับเพิ่มขึ้น 0.7 องศาเซลเซียสแล้ว นอกจากนั้นรายงานนี้ยังตั้งเป้าตัดลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 50%
WWF สนับสนุนรายงานของคณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยความเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ (IPCC) จากองค์การสหประชาชาติ ที่ได้เน้นย้ำว่า เราสามารถหลีกเลี่ยงผลกระทบขั้นเลวร้ายที่สุดจาก ภาวะโลกร้อน ได้ด้วยการใช้เทศโนโลยีที่มีอยู่แล้ว ใช้พลังงานทางเลือก และดำเนินมาตรการประหยัดพลังงาน
อย่างไรก็ตาม WWF ระบุว่า การตัดสินใจของฝ่ายเศรษฐกิจและการเมืองยังคง “มีแนวทางที่แตกต่างกันและเป็นอันตราย”
รายงานส่งเสริมวิธีแก้สำคัญๆ 6 ประการ เช่น การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น, การปลูกป่า, การเร่งพัฒนาเทคโนโลยีที่ปล่อย ก๊าซเรือนกระจก ในระดับต่ำ อาทิ พลังงานลม และพลังงานแสงอาทิตย์ รวมไปถึง การเก็บกักสะสมพลังงาน
ทาง WWF ยังต้องการให้โรงไฟฟ้าที่ใช้พลังงานถ่านหิน เปลี่ยนมาใช้ก๊าซแทน และต้องการให้กักและแยกก๊าซคาร์บอนให้มากกว่านี้ เพื่อรับมือกับการปล่อยก๊าซดังกล่าวอย่างต่อเนื่องจากการเผาไหม้ เชื้อเพลิงฟอสซิล
เมื่อรวมกันแล้ว วิธีเหล่านั้นอาจตัดลดการปล่อย ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ได้ประมาณ 60-80% ภายในปี 2050 โดยมีเงื่อนไขว่า ต้องนำมาปฏิบัติให้ทันเวลา
ส่วนทางแก้ในอีกด้านหนึ่ง รายงานนี้ไม่เห็นด้วยกับการใช ้พลังงานนิวเคลียร์ แม้ว่าวิธีดังกล่าวอาจไม่มีการปล่อย ก๊าซคาร์บอน เลย โดยรายงานบอกว่าเพราะการใช้ พลังงานนิวเคลียร์ อาจมีความเสี่ยงเกิดมลพิษจาก กัมมันตภาพรังสี, ความเสี่ยงแพร่กระจายอาวุธ นิวเคลียร์ และความเสี่ยงเรื่องค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างและปลดระวาง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ไม่คุ้มกับประโยชน์ที่ได้
รายงานย้ำว่า ถ้าทุกประเทศตัดสินใจแก้ปัญหาร่วมกันภายใน 5 ปี มาตรการต่างๆก็จะเริ่มมีผลดังประสงค์ได้ภายใน 1 ทศวรรษ โดยขึ้นอยู่กับโลกความจริงว่าภาคอุตสาหกรรมจะมีความสามารถปรับตัวอย่างแข็งขันเพียงใด
Credit : http://manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9500000056394
โลกเราอาจโดนทำลายด้วย ภาวะโลกร้อน หรือ…… อ่านที่นี่ดูครับ
http://ekgarinn.exteen.com
โลกเราจะแย่ถ้าเราไม่ช่วยกัน (คำคมในใจครับ)ถ้าเราไม่ช่วยกันรักษาต้นไม้ ไม่ช่วย ป้องกันคาร์บอน มีเทน พวกนี้โลกของเราจะยิ่งแย่นะครับ ซึ่งมันจะเป็นผลร้ายต่อเด็ก ต่อคนแก่ และต่อทรัพยากรธรรมชาติ และสัตว์ได้นะครับ
ไม่อยากเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้น ……….. ถ้าเราใส่ใจซักหน่อยภาวะโลกร้อนก็จะไม่เกิดขึ้น
มาถึงซะที กับภัยจากธรรมชาติ ครั้งร้ายแรง ที่ทำให้สิ่งมีชิวิตทุกสายพันธุ์ต้องหวาดกลัว !!!
พึงตระหนักไว้ ถ้ามันเกิด คำว่า ” รอด ” คงไม่มี สำหรับสิ่งมีชีวิต