การเปลี่ยนแปลงของภูเขา Kilimanjaro
นี่คือ ภาพสถานที่ต่างๆ จาก An Inconvenient Truth ครับ เปรียบเทียบกับสมัยอดีต ดูกันให้เห็น
ภูเขา Kilimanjaro เป็นภูเขาที่สูงที่สุดใน Africa ภาพเมื่อปี 1970 ยังเห็นหิมะบนยอดเขาเยอะอยู่
ปี 2000 หิมะละลายไปมาก
ปี 2006 แทบไม่เหลือหิมะปกคลุมบนยอดเขา
ภาวะโลกร้อน
ดูก็รู้แล้ว คับ ว่าไม่น่ารอด
ต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือแล้วละ ไม่อย่างนั้นโลกเราแย่แน่ๆ
อยากย้อนเวลาได้จัง
ต้องช่วยกันคนละไม้ละมือแล้ว โลกกำลังแย่
ใช้
น่ากลัวมากเลยอ่ะ
ถ้าน้ำท่วมแล้วเราจาอยู่กานยางไง
เราต้องช่วยกานรักษาโลกสีเขียวของเราให้อยู่กาบเราไปนานสู้ๆๆๆๆ>O
ต้องช่วยกานปลูกป่า
ทางออกสุดท้ายคือการย้ายถิ่นฐาน ส่วนข้อแรกๆ คือต้องสู้โว๊ย
1.ช่วยกันปลูกต้นไม้ ปลูกต้นไม้รอบๆ บ้าน เพื่อให้บ้านเย็น,เราเย็น,โลกก็เย็นด้วย
2.ใช้พลังงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด เปิดไฟ เปิดแอร์อ่านหนังสือ,เรียนหนังสือ ดีกว่านั่งเล่นไพ่ เพราะฉนั้นควรช่วยกันประหยัดไฟ ประหยัดเงินคุณ ประหยัดเงินชาติ
3.ใช้ผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ เช่น ตะกร้า กระเป๋า และบรรจุภัณฑ์ประเภทแก้วแทนจำพวก พลาสติกที่ใช้ได้น้อยครั้ง เพื่อลดความร้อนในขบวนการผลิต และการทำลาย
4.แยกประเภทของขยะก่อนทิ้ง
5.รวมกลุ่มแสดงพลัง ให้ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาหาแนวทางแก้ปัญหา,รณรงค์ประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจให้แก้ปัญหาไปในทางเดียวกัน พร้อม ๆ กัน เหมือนกับที่เราแสดงโหวดคะแนนให้ AF ทั้งหลาย
ถ้าเราเปิดใจให้กว้าง เราอาจสร้างโลกใหม่ได้
ต้นไม้ก็น้อยลงด้วยหนิ แค่ปลูกต้นไม้ซักต้นก็ช่วยได้มากแล้ว มันค่อยๆหายไปจนหมดแน่ๆ =_=!
มันสายแล้วครับ และทุกคนจะต้องเจอกับการจากไปของโลกในไม่ช้านี้
เพราะโลกนี้มันแค่*ดุนยา*
ภาวะโลกร้อนน่ะผีมือมนุษย์ล้วนๆ เราควรร่วมมือกันหยุด การตัดไม้ทำลายป่า แต่หันมาปลูกต้นไม้ ลดการใช้น้ำมัน แล้วขี่จักรยานแทน แล้วห้ามเผาขยะด้วย
เฮ้อๆๆ
ที่มันเป็นอย่างงี้ก็เพราะเราเอง
รู้สึกไม่ดีเลย
ต้องร่วมกันรณรงค์ทำให้จริงจังกว่านี้วะแล้วล่ะ!!!!!~
M_M
เป็นเรื่องสำคัญอย่างมากสำคัญเรา ลูก หลาน เหลน โหลน ฯลฯ ถึงจะแก้ไขกันอย่างเต็มที่ในตอนนี้ก็ยังได้รับผลกระทบแน่นอน แต่ต้องรีบทำโดยด่วน ไม่เช่นนั้นอาจถึงจุดจบของสิ่งมีชีวิตบนโลกก็เป็นได้ ถ้าจะทำให้ได้ผลอย่างเต็มที่ทุกคนต้องร่วมมือกัน สิ่งที่ยังเป็นปัญหาในการสร้างความร่วมมือในเวลานี้ คือ ผู้คนอีกมากมายยังขาดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง รวมทั้ง ไม่รู้จะทำอะไรได้บ้าง ซึ่งไทยเราไม่รู้ว่ารัฐบาล/ภาครัฐซึ่งขับเคลื่อนในภาพรวมของประเทศ จะทำเรื่องนี้ไหม จะทำเมื่อไหร่ ทำอย่างจริงจังหรือไม่ ผมคิดว่าอย่าเสียเวลารออยู่เลย ใครทำอะไรได้ให้รีบทำ คนละไม้ละมือ จากตนเอง บอกต่อๆ กัน เพื่อทำสิ่งที่ควรทำในการแก้ไขโลกร้อน
บอกได้เลยว่ารอดยากแล้วเท่าที่เห็นรอบตัวตอนนี้ยังไม่มีใครช่วยโลกอย่างจริงจังเลยดีแต่ปากกันทั้งนั้นดูตัวเองก่อนเลย..หยุดใช้แอร์หรือยัง..หยุดใช้รถหรือยัง..หยุดใช้ถุงพลาสติกกันหรือยังกล่องโฟมด้วย..พวกสเปร์ยทั้งหลายเลิกใช้หรือยัง..ของทำจากไม้ยังซื้อมาใช้กันอยู่มั้ย..เอาง่ายๆเลยวันนี้ปลูกต้นไม้กี่ต้น..โธ่เอ้ย..แล้วบอกว่าจะช่วยโลก..ไอ้พวกนักการเมืองมีอำนาจในการออกกฎหมาย..ก็ไม่ออกกฎให้มันเด็ดขาดรุนแรง..มัวแต่เหยาะแหยะเห็นแก่เงินเห็นแก่พวกพ้อง..ตายไปเอาไปได้มั้ยน่ะ..จะพากันตายอยู่แล้วยังจะเห็นแก่ตัวเห็นแก้เงินอีก..กฎหมายมันต้องใครตัดต้นไม้ประหารชีวิต..ใครขายอุปกรณ์เครื่องตัดไม้ประหารชีวิต
แล้วออกกฎบังคับให้ปลุกต้นไม้ยืนต้นทุกวัน..ออกกฎหมายห้ามมิให้มีโรงงานอุตสาหกรรมที่เข้าข่ายทำให้เกิดภาวะโลกร้อน..ใครฝ่าฝืนยึดทรัพย์ให้หมด..ให้แม่งล้มละลายไปเลย..คนเดี๋ยวนี้จะรอปลูกจิตสำนึกมัน..โลกคงฉิบหายก่อน..จะต้องออกกฎบังคับมันเลย..ฝ่าฝืนเล่นให้หนักๆ..ตายเลยยิ่งดี…ไปล่ะไปปลูกต้นไม้ก่อน..เขียนไปก้อแค่ระบาย..คงช่วยอะไรไม่ได้…ใครอ่านแล้ว..วันนี้ก้อปลูกต้นไม้ต่ออายุตัวเองและลูกหลานนะ..คับ..ช่วยกัน
เราน่าจะช่วยกันปลูกจิตใต้สำนึกเด็กและผู้ใหญ่บางคนที่ยังปลูกฝังได้ให้รูจักใช้ทรัพยากรที่เหลืออยู่ให้เกิดประโยชน์ให้มากที่สุด
เราพูดอย่างเดียวไม่ได้แล้ว ต้องลงมือทำอย่างจริงจัง ต่อเนื่องและยั่งยืน ทางเดียวที่เราน่าจะช่วยกันได้ คือ เปิดหลักสูตร ภาวะโลกร้อน ลงไปในหลักสูตรสถานศึกษาทั่วประเทศและทั่วโลก เพราะขณะนี้ยังมีคนรู้น้อยมาก รู้เพียงว่า โลกร้อน…แล้วยังไง… ทุกคนยังไม่มีความตระหนัก จนกว่าจะเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติ เช่น สึนามิ ที่ทำให้กระเทือนไปทั่ววงการ จึงมองว่า ต้องลงไปให้ถึงชุมชน หลักสูตรของชุมชน ก็ต้องหันมาเล่นเรื่องนี้กันให้จริงจัง หน่วยงานท้องถิ่นต้องรู้ก่อน จะได้ไปสร้างกิจกรรมในท้องถิ่น จนกว่าประชาชนเข้าใจพร้อมๆ กัน หลังจากนั้นทุกหน่วยงานมีความจริงใจในการร่วมแก้ปัญหาแบบองค์รวม ทุกคนต้องนึกว่าสิ่งนี้เป็นภาระงานของพวกเรา ไม่ใช่พวกเขา…ต้องนึกเผื่อไว้อีก ๓๐ ปีข้างหน้า ให้กับบุตรหลานของเราด้วย แต่ต้องเริ่มที่เรา และลงมือทำอย่างจริงจังตามศักยภาพของเราทุกคน และเมื่อนั้นความอยู่รอดของมนุษยชาติต้องเกิดแน่นอน
ถึงแก่เวลาอันสมควรแล้ว มนุษย์ ปกครองโลกมานานเกินไปแล้ว
น่าเกลียดจริงๆ
เดี๋ยวก่อนพวกเราเค้าว่ามันยังไม่สายนะ
นี่เพื่อนๆทุกคนช่วยบอกจังหวัดที่ตัวเองอยู่ด้วยนะแล้วเราก็มาช่วยกันคิดปัญหาของภาวะโลกร้อนกันในแต่ละของจังหวัดกันงั้นใครที่ได้อ่านงั้นขอให้เริ่มวันพรุ่งนี้เวลา10.00นเลยนะ
เราจะมาร่วมกันรณรงค์ภาวะโลกร้อนกัน
ลืมบอกไปเราอยู่จ.น่านอายุแค่12ปีเองแต่เราก็ตระหนักถึงปัญหาภาวะโลกร้อนนะ
ผมเป็นคนที่มีฐานะไม่รวย (จน) ผมดีใจนะที่เกิดภาวะโลกร้อน ทุกวันนี้นะผมก็ยังคงทำให้โลกร้อน ผมอยากนั่งเผาพลาสติก อยากให้โลกมันร้อนขึ้น ๆ ผมเจอคนจนผมชวนเขาทำให้โลกร้อนขึ้น ๆ จะทำให้มันร้อนเพราะผมมีอคติกับไอพวกคนรวย ผมไม่มีรถ ไม่มีแอร์ ไม่มีคอม ฯลฯ (ตอนนี้โพสเครื่องคอมที่ทำงาน) ผมอยากให้เกิดโรคร้อนคนรวย ๆ ที่มีรถ มีแอร์ มีคอม ฯลฯ ถ้าวันนึงพวกมัน (คนรวย) ไม่มีให้ใช้แล้วมันจะอยู่กันยังไง คนจนทุกวันนี้เหมือนตายทั้งเป็นอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นผลจากเศรษฐกิจ ผลจากอันตรายต่าง ๆ ที่ไม่มีทางเลือกได้ ถ้ามันจะลำบากขึ้นเพราะโลกร้อนมันก็ไม่ลำบากไปมากกว่านี้ แต่ไอพวกคนรวย ๆ คุณจำไว้นะคับ วันนี้คุณสบายกอบโกยผลประโยชน์จากธรรมชาติ อีกไม่นานหรอกคับวันที่คุณจะลำบากที่สุดใกล้เข้ามาแล้วคับ คนที่ลำบากอยู่คุณใกล้จะสบายแล้วคับ
ถ้าทุกคนตระหนักและคิดจริง ๆ คนที่ทำให้โลกร้อนนั้นคือใคร ก็พวกคนที่ทำธุรกิจนั่นแหละคับ หรือเรียกอีกอย่างว่าไอพวกที่หาผลประโยชน์จากธรรมชาติ ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจอะไรทุกอย่างล้วนเป็นผลจากการนำธรรมชาติมาใช้ทั้งสิ้น ทางออกเดียวที่จะทำได้คือต้องให้เกิดภาวะโลกร้อนขึ้นก่อน ทุกวันนี้คนเราติดอยู่กับวัตถุ คุณค่าทางจิตใจต่ำช้ายิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน ผมคงพอแค่นี้ดีกว่าคับ ผมเอาเวลาโพสไปนั่งเผาขยะดีกว่า ผมช่วยทำให้โลกร้อนเหมือนกับนักธุรกิจเพียงแต่ผมไม่ได้เงินเหมือนนักธุรกิจแค่นั้นเองคับที่ต่างกัน
โอ้โห!!!!!..
โลกเรากำลังแย่ลงทู้กกกกกวัน น น..
เพราะฉะนั้น เราต้องช่วยกันลด ด ด..
มลภาวะที่แย่ๆๆๆๆๆ..
ในโลกของเรา ช่วยกันคนละไม้คนละมือกัน น น..
มันเปงเรื่องของทุกคนไม่ใช่แค่ครัยคนหนึ่งที่ต้องทำนะ..
ดูจากในภาพ พ พ..
มันหายไปหมดแร้ว ว ว..
โอ๊ว! ใครหนอช่างทำได้ขนาดนี้ แล้วต่อไปโลกของเราจะรอดหรือเปล่าหว่า? ทุกวันนี้ร้อนมากเลย ใครก็ได้ช่วยที่เหอะ
โอ้โห!ขนาดนี้แล้วยังมัวแต่หาคนผิดอยู่ได้คงไม่จำเป็นแล้วแหละเพราะถ้าจะผิดก็คงผิดกันทุกคนนั่นแหละเพียงแต่มากหรือน้อยแต่มันคงไม่สำคัญเท่ากับเราช่วยกันมากแค่ไหนแค่เพียงช่วยกันทำเท่าที่เราคิดว่ามันมากที่สุดแล้วสำหรับเราแค่นี้ก็เป็นส่วนหนึ่งแล้วตอนนี้นำแข็งอาจจะละลายไปเยอะแล้วแต่น้ำก็ยังไม่ท่วมโลกซะหน่อยแล้วจะท้อทำไมเนอะ…สู้ดิ
รอบ 1 ปี ที่ผ่านมานี้
ผมได้ปลูกไม้ยืนต้นไม่ต่ำกว่า 1,000 ต้น ทั้งไม้ใช้สอย ไม้ประดับ และไม้ผล ตามแนวพระราชดำริของพระเจ้าอยู่หัว “ไม้สามอย่าง ประโยชน์สี่อย่าง” ซึ่งบางส่วนที่ทำ (ประมาณ 3 ไร่) พยายามดูแล บำรุง รักษาให้เป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ มีความหลากหลาก และผมยังได้จัดการขยะในครัวเรือน โดยการคัดแยกก่อนทิ้ง และนำบางส่วนมาหมักเป็นปุ๋ยไว้ใช้ในครัวเรือน บางส่วนขายเป็นของเก่า ขยะอันตรายเก็บไว้ไปทิ้งในที่ท้องถิ่นจัดให้เฉพาะ ซึ่งปัจจุบันเหลือทิ้งให้ท้องถิ่นกำจัดน้อยมาก (ส่วนใหญ่เป็นประเภทพลาสติก) ตอนนี้กำลังคิดว่าจะนำขยะพลาสติกมาจัดการเพื่อจะได้ไม่ต้องมีขยะต้องทิ้งไปกำจัดอีกต่อไป ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น อันเป็นสิ่งที่ผมภูมิใจที่ได้ทำ พยายามทำ และจะทำต่อๆ ไป
มันเกิดขึ้นแน่แต่ถ้าช่วยกันก็สามารถยืดมันออกไปได้
ต้องทำยังงัยดี ถึงทำให้ทุกๆคนมาสนใจปัญหานี้อย่างจริงจัง
อยากให้ย้อนเวลาได้จริงๆ
ยังไงเราก็ตาย